วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2551

น้ำมันงา(ต่อ)


"งา" เป็นพืชไร่ล้มลุก ที่มีเมล็ดขนาดเล็ก สีดำ หรือ ขาว ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ปกติเราจะใช้เม็ดงาเป็นส่วนปรุงแต่งอาหารพวกขนมหลายชนิด เช่น ขนมถั่วกระจุก ถั่วตัด สลัดงา กระยาสารท ขนมคอเป็ด ขนมถั่วแปบ และพวกน้ำจิ้มทอดมัน สุกี้ ฯลฯ เนื่องจากเมื่อนำมาคั่วแล้วจะมีกลิ่นหอม น่ารับประทานจากการศึกษาพบว่าเมล็ดงาจัดเป็นอาหารที่มีคุณค่าน่าสนใจชนิดหนึ่ง เพราะในแต่ละเมล็ดเล็ก ๆ จะมีสารอาหารสำคัญ ๆ เข้าไปแออัดยัดเยียดอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่จะเป็นโปรตีน ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ต่าง ๆ ไขมันในงาจะมีอยู่มากประมาณ 45-57 % จัดเป็นไขมันที่มีคุณภาพดีเพราะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง และไม่เกิดการเหม็นหืนง่าย เนื่องจากมีสารกันหืนตามธรรมชาติ นอกจากนั้นยังช่วยลดคอเรสเตอรอลในเลือกด้วยส่วนโปรตีนก็มีอยู่ไม่น้อยกว่า 20% เป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสุง เพราะมีกรดอะมิโนที่จำเป็นอยู่ครบทุกชนิด โดยเฉพาะเมธิโอนิน ซึ่งมีอยู่น้อยในโปรตีนถั่วเหลือง แต่กลับมีมากในงา ดังนั้นผู้ที่บริโภคอาหารมังสวิรัติ ซึ่งร่างกายจะได้รับโปรตีนจากธัญพืช จึงต้องบริโภคเมล็ดงาร่วมกับเมล็ดถั่วด้วย จึงจะได้รับกรดอะมิโนที่จำเป็นอย่างเพียงพอในเมล็ดงา จะอุดมในด้วยวิตามินบีทุกชนิด (ยกเว้นวิตามิน บี 12) ซึ่งจะช่วยในการบำรุงสมอง ประสาท และป้องกันโรคเหน็บชา ส่วนเกลือแร่จะมีมากถึง 4.1-6.5% ที่สำคัญ ก็คือ พวกธาตุเหล็ก ไอโอดีน สังกะสี แคลเซียม และฟอสฟอรัส โดยเฉพาะแคลเซียม และฟอสฟอรัสในงาจะมีอยู่มากกว่าผักชนิดอื่น ๆ ถึง 40 และ 20 เท่า ตามลำดับ ดังนั้นงาจึงเป็นแหล่งของสารอาหารที่น่าสนใจอย่างหนึ่งที่อาจจะช่วยบรรเทาโรคบางชนิดได้ เช่น โรคเหน็บชา โรคปวดตามข้อกระดูก เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น: