วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

น้ำมันพืชใสปิ๊งดีจริงหรือ?

วิธีการสกัดน้ำมันพืชโดยใช้ตัวทำละลาย (solvent extraction)
ในทางอุตสาหกรรมมีการนำเอาตัวทำละลายมาช่วยในการสกัดน้ำมันให้ได้น้ำมันออกมามากที่สุด ส่วนใหญ่การใช้ตัวทำละลายจะสกัดได้มากกว่า 90% ของปริมาณน้ำมันที่มีในวัตถุดิบ
การสกัดน้ำมันพืชด้วยตัวทำละลาย เป็นการสกัดที่ใช้ในโรงงานผลิตน้ำมันพืชทั่วไป โดยนำวัตถุที่เป็นส่วนของพืชให้น้ำมันมาย่อยขนาดเล็กลง อาจนำไปตากแดดหรืออบไล่ความชื้นก่อน แล้วจึงแช่ในตัวทำละลาย ตัวทำละลายมีอยู่หลายชนิด เช่น อีเทอร์ เบนซิน และที่นิยมมากที่สุดคือ เฮกเซน ก็จะได้สารละลายที่เป็นส่วนผสมของน้ำมันพืชและเฮกเซนออกมา จากนั้นจึงนำไปแยกตัวทำละลายออกจากน้ำมันพืชโดยการระเหยโดยใช้ความร้อน น้ำมันที่ได้ยังมีสิ่งเจือปนอยู่หลายอย่าง เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต กรดไขมันอิสระ กลีเซอร์ไรด์ น้ำมันหอมระเหย ซึ่งการผลิตในโรงงานจะนำไปกลั่นเพื่อเอาสิ่งเจือปนเหล่านั้นออกก่อน โดยการสกัดยางเหนียวโดยใช้กรดฟอสฟอริก และใช้โซดาไฟหรือโซเดียมไฮดรอกไซด์กำจัดกรดไขมันอิสระ ทำการฟอกสีโดยการใช้ผงถ่านแล้วกรองออก กำจัดกลิ่นโดยใช้ไอน้ำที่อุณหภูมิ 220-270 องศาเซลเซียส ภายใต้สุญญากาศเป็นเวลา 2 ชั่วโมง กลิ่นต่างๆ จะถูกดูดออกไป และเติมไฮโดรเจนอีกครั้งเพื่อป้องกันการหืน และเติมวิตามินสังเคราะห์
น้ำมันพืชที่สกัดด้วยวิธีนี้ เรียกว่า น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี (Process oil) จะใส มีสีเหลืองอ่อนหรือแก่ ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น แทบจะไม่เหลือคุณสมบัติทางกายภาพเดิมของ สี กลิ่น รส อยู่เลย และคุณค่าสารอาหารจะหายไประหว่างการผลิต ซึ่งเป็นน้ำมันที่ผลิตจากโรงงานโดยทั่วไปและเราส่วนใหญ่บริโภคอยู่ทุกวัน เพราะเป็นการสกัดทีให้น้ำมันปริมาณมาก มีอายุทนนาน ไม่เหม็นหืน ถ้าพิจารณาตามกระบวนการผลิตจะเห็นได้ว่า คุณสมบัติทางเคมีก็เปลี่ยนไปมาก และยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพเพราะผ่านสารเคมี

ไม่มีความคิดเห็น: